[CR] เรื่องจริงไม่อิงนิยาย -- ซื้อแพ็กเกจเสริมอินเตอร์เนต Dtac ต้องเสียสิทธิของแพ็กเกจหลัก

งงกะเรื่องนี้จริงๆ

ผมมีแพ็กเกจรายเดือนกับ Dtac ทั้งโทรกับเนต สองวันก่อนได้รับ MMS จาก Dtac เป็นโปรโมชั่นแพ็กเกจเสริมสำหรับเนต 10GB ใช้ได้ 3 เดือน ผมก็สั่งซื้อเพราะคิดว่าต้องได้ใช้แน่ในระยะเวลานั้น ถึงแม้โดยปกติจะเป็นคนใช้น้อยก็ตาม

หลังจากนั้นสักพัก ผมก็เริ่มสงสัยว่าทาง Dtac จะหักค่าเนตจากแพ็กเกจหลักหรือเสริมก่อน คือผมคิดว่าโดยตรรกะแล้วก็น่าจะหักจากแพ็กเกจหลักก่อน ด้วยเหตุผลว่าผมต้องจ่ายสำหรับแพ็กเกจหลักทุกเดือนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมก็ควรมีสิทธิใช้อันนั้นอย่างเต็มที่ก่อน แล้วจึงใช้จากแพ็กเกจเสริม ถ้า Dtac หักจากแพ็กเกจเสริมก่อนก็จะเท่ากับว่าค่าเนตในแพ็กเกจหลักจะสูญไปเปล่าๆ

พอเช็คดูในแอ๊ปของดีแทค ก็พบว่าค่าเนตในแพ็กเกจเสริมถูกหักไปแล้ว แปลว่าสิ่งที่ผมหวั่นเกรงเกิดขึ้นจริง

เลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์ ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนหนึ่ง ขอเรียกว่านายปอก็แล้วกัน ผมอธิบายให้ฟังถึงสถานการณ์ของผมและถามว่าจะขอให้หักจากแพ็กเกจหลักก่อนได้ไหม นายปอบอกทันทีว่าทำไม่ได้ โดยอธิบายว่าพอเราซื้อโปรโมชั่นเสริมปุ๊ป ระบบจะตัดจากโปรก่อนทันที เมื่อหมดแล้วจึงจะตัดจากแพ็กเกจหลัก ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ make sense และไม่เป็นธรรมกับลูกค้า

อย่างในกรณีของผม แพ็กเกจหลักมีเนตอยู่ 500MB (ปกติไม่ได้ใช้มาก แต่ถึงจะเป็น 1GB หรือ 2GB ก็ไม่ต่างกัน) ถ้าระบบหักจากแพ็กเกจเสริมก่อน แล้วถ้าผมใช้ไม่หมด 10GB ในเดือนแรกและเดือนที่สอง แปลว่าผมจะเสียค่าเนตจากแพ็กเกจหลักไปฟรีๆ อย่างน้อย 1,000MB หรือประมาณ 1GB

แต่ความกังวลและเหตุผลของผมไม่ได้รับการพิจารณาใดๆ ไม่ว่าจะอธิบายยังไง นายปอก็ยังคงยืนยันด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยนุ่มนวลเท่าไหร่ว่าระบบจะตัดจากแพ็กเกจเสริมทันทีที่สั่งซื้อ เขาอ้างว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อแพ็กเกจเสริมก็ต่อเมื่อแพ็กเกจหลักหมดแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ระบบตัดค่าเนตจากแพ็กเกจเสริมทันที แม้ว่าจะยังมีค่าเนตในแพ็กเกจหลักอยู่ก็ตาม

ถ้าอย่างนั้น มีกำหนดเวลาแพ็กเกจเสริมไว้ 3 เดือนทำไม การกำหนดเช่นนี้ก็เพื่อให้ใช้ได้ภายใน 3 เดือน และก็ไม่ใช่โดยการริดรอนสิทธิของลูกค้าในการใช้แพ็กเกจหลักมิใช่หรือ

อย่างในกรณีผม ถ้าเดือนนี้ผมใช้ไม่ถึง 10GB จำนวน 500MB ในแพ็กเกจหลักของผมก็จะเสียไปเปล่าๆ เช่นเดียวกันในเดือนที่สอง ถ้าผมยังใช้ไม่ถึง 10GB ก็ต้องเสีย 500MB ไปอีก

แปลว่าถ้าเราใช้แพ็กเกจเสริมไม่หมดใน 2 เดือน ก็เท่ากับว่าเราต้องถูกลงโทษจากการที่เราใช้น้อยอย่างนั้นหรือ

ที่ทำให้หงุดหงิดยิ่งขึ้นคือ สุ้มเสียงของนายปอที่พูดกับผมเหมือนกับว่าทำไมอธิบายแล้วยังไม่เข้าใจอีกนะ

พอในที่สุดแล้ว ผมถอดใจว่าคุยต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ ก็ถามนายปอว่าถ้าอย่างนี้ผมจะขอทำเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร นายปอบอกยังไงทราบไหมครับ “เราไม่มีแผนกรับเรื่องร้องเรียนครับ” ผมงี้อึ้งไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว ต้องถามไปอย่างงงๆ ว่า “บริษัทใหญ่โตอย่างดีแทคไม่มีแผนกรับเรื่องร้องเรียนหรือครับ” นายปอบอกว่า “ใช่ครับ แต่จะส่งข้อเสนอแนะเข้าไปที่บริษัท”

ผมถามว่า “แล้วผมจะส่งข้อเสนอแนะได้ยังไง”

นายปอบอกว่า “คุณส่งไม่ได้ครับ”

“อ้าว แล้วอย่างงี้ใครจะส่งข้อเสนอแนะเข้าไปละครับ”

“เขาจะส่งให้เองครับ”

“ขอโทษนะ ใครคือเขาครับ”

“ทางผมเองครับจะส่งไปให้”

คือจริงๆ พูดวนไปวนมาหลายรอบ โดยที่นายปอไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์จะรับเอาปัญหาของลูกค้าเพื่อทำเป็นข้อเสนอแนะเข้าไปให้ที่บริษัท ผมก็ตำหนิไปว่า “แล้วทำไมไม่บอกแต่ต้นละครับ ว่าคุณจะรับส่งเข้าไปให้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็ขอให้คุณนำเรื่องของผมไปเสนอแนะให้ทางบริษัทด้วยก็แล้วกัน”

แล้วเราก็จบการสนทนา แต่บอกตามตรงว่าไม่ได้ทำให้หายข้องใจหรือหายหงุดหงิดเลย คือผมไม่อยากเชื่อเลยว่าบริษัทยักษ์ใหญ่แบบดีแทคที่มีลูกค้ารายย่อยเป็นล้าน จะไม่มีแผนกรับเรื่องร้องเรียน จะบอกว่าไม่เคยมีลูกค้าร้องเรียนก็ไม่น่าจะใช่ แล้วที่นายปอบอกจะส่งข้อเสนอแนะไปให้บริษัท ข้อเสนอแนะจะเป็นรูปแบบไหนและส่งถึงใคร ที่แน่ๆ คือผมไม่ได้เป็นคนเขียนข้อเสนอแนะ ตัวเขาเองจะเป็นคนเขียนและส่งเอง แล้วผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะตรงกับปัญหาที่ผมมีหรือมันจะนำไปสู่การแก้ไข พุดง่ายๆ ไม่มีความมั่นใจว่าปัญหาที่ผมยกขึ้นมาจะได้รับการพิจารณาเลย

ผมคิดว่าผมยังอยากส่งเรื่องร้องเรียนเข้าไปที่บริษัท แต่ยังไม่ทราบว่าจะส่งไปที่ไหน ถึงใคร แต่คงไม่โทรไปถามคอลเซ็นเตอร์อีกแน่ครับ